guideubon

 

ต้นรวงผึ้ง วัดสุปัฏนารามวรวิหาร ชนะเลิศรางวัลระดับประเทศ

ต้นรวงผึ้ง-วัดสุปัฏนาราม-อุบล-01.jpg

“ต้นรวงผึ้ง" ถือเป็นพรรณไม้อันทรงคุณค่า และมีเกียรติชนิดหนึ่ง ที่ถูกยกให้เป็นพรรณไม้ประจำรัชกาลที่ 10 ด้วยต้นรวงผึ้งจะออกดอกในช่วงเดือนพระบรมราชสมภพ (เดือนกรกฎาคม) ประกอบกับสีของดอกต้นรวงผึ้งยังมีสีเหลือง ซึ่งเป็นสีประจำพระชนมวารอีกด้วย อีกทั้ง พระองค์ยังทรงปลูกต้นรวงผึ้งไว้ตามสถานที่ต่างๆ เมื่อครั้งพระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปประกอบพระราชกรณียกิจ เพื่อพระราชทานไว้ให้เป็นตัวแทนแห่งพระองค์ท่านและเป็นสิริมงคลแก่ราษฎร

และเนื่องในโอกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว วันที่ 28 กรกฎาคม 2562 กรมป่าไม้จึงได้กำหนดให้มี โครงการประกวดต้นรวงผึ้ง "ต้นไม้ประจำรัชกาลที่ 10" ประจำปี 2562 เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วน เล็งเห็นความสำคัญของต้นรวงผึ้ง และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ดูแลรักษา และปลูกต้นรวงผึ้ง เพื่อแสดงความจงรักภักดี และการสนับสนุนด้านสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ กรมป่าไม้ได้พิจารณาตัดสินการคัดเลือกต้นรวงผึ้งแล้ว มีผลการตัดสิน ดังนี้

ประเภทต้นไม้ทรงปลูก
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ สวนหลวง ร.9
รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย
รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา

ประเภทต้นไม้ธรรมชาติ
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ วัดเกรียงไกรใต้

ประเภทต้นไม้ปลูก โดยหน่วยงาน/องค์กร
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ วัดสุปัฏนารามวรวิหาร
รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
รองชนะเลิศอันดับ  ได้แก่ สวนป่าทุ่งเกวียน (องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้)

ต้นรวงผึ้ง-วัดสุปัฏนาราม-อุบล-05.jpg

สำหรับต้นรวงผึ้ง เป็นไม้ต้นอยู่ในวงศ์ชบา (Malvaceae) มีสถานภาพเป็นพรรณไม้ที่ใกล้สูญพันธุ์ ทั่วโลกพบในธรรมชาติเพียง 3 แห่ง คือ ริมแม่น้ำน่าน ในจังหวัดนครสวรรค์ ณ ป่าบุ่งบ่าทามริมแม่น้ำสงคราม ในจังหวัดสกลนครและจังหวัดนครพนม และโตนเลสาบ ในประเทศกัมพูชา แต่พบปลูกบริเวณวัด วัง บ้านเรือน และสวนสาธารณะทั่วประเทศ

ต้นรวงผึ้ง มีดอกสีเหลืองสด มี กลิ่นหอม และมักจะบานสะพรั่งในช่วงเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้า เจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ทั้งนี้ สีเหลืองของดอกยังตรงกับสีของวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันพระราชสมภพอีกด้วย

ต้นรวงผึ้ง-วัดสุปัฏนาราม-อุบล-03.jpg

และต้นรวงผึ้ง 2 ต้น ที่วัดสุปัฏนารามวรวิหาร พระวิบูลธรรมาภรณ์ เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน สันนิษฐานว่า สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสฺโส) อดีตเจ้าอาวาสวัดสุปัฏนารามวรวิหาร ปลูกในช่วงปี พ.ศ.2460-2464 หรือเมื่อร้อยกว่าปีที่ผ่านมา

ต้นรวงผึ้ง-วัดสุปัฏนาราม-อุบล-04.jpg

ต้นรวงผึ้ง ต้นที่ 1 สูงประมาณ 18 เมตร เส้นรอบวงที่ระดับความสูงเพียงอก 204 เซนติเมตร
ต้นรวงผึ้ง ต้นที่ 2 สูงประมาณ 15 เมตร เส้นรอบวงที่ระดับความสูงเพียงอก 254 เซนติเมตร

ต้นรวงผึ้ง-วัดสุปัฏนาราม-อุบล-02.jpg

ต้นรวงผึ้ง (Yellow star) ชื่อพื้นเมืองเรียกว่า ต้นน้ำผึ้ง เป็นไม้หอมถิ่นกำเนิดในประเทศไทย พบมากในป่าทางภาคเหนือสูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 – 1,100 เมตร เป็นพันธุ์ไม้ประเภทเดียวกับปอ กระเจา และตะขบฝรั่ง คนภาคเหนือเรียกว่า ต้นสายน้ำผึ้ง ดอกน้ำผึ้ง มีดอกสีเหลืองเข้ม กลิ่นหอมตลอดทั้งวัน มีช่อดอกดกที่เกิดตามซอกใบเป็นช่อสั้น โคนกลีบเลี้ยงเชื่อมติดกัน ปลายแยกออกเป็น 5 แฉกคล้ายรูปดาว ไม่มีกลีบดอก มีเกสรตัวผู้จำนวนมาก ลำตันแตกกิ่งต่ำ กิ่งค่อนข้างเล็กเรือนยอดเป็นพุ่มมน ใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปแผ่นใบสองข้างไม่เท่ากัน ผิวใบด้านบนสีเขียว ด้านล่างสีน้ำตาลอมนวล สามารถขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่ง และเพาะเมล็ด

นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ ดอกสวยงามออกเต็มต้น มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ให้ร่มเงา ปลูกเลี้ยงง่าย ทนแล้ง และนำดอกมาทำบุหงา ดอกของต้นรวงผึ้ง มีกลิ่นหอมคล้ายน้ำผึ้ง “ดอกรวงผึ้ง” จะเบ่งบานในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ผลิดอกได้นาน 7-10 วัน เมื่อดอกสีเหลืองบานพร้อมกันทั้งต้น จะดูงดงามอร่ามตา และส่งกลิ่นหอมชื่นใจตลอดทั้งวัน