เทศกาลลอยกระทงนี้ ห้ามปล่อยโคมลอย ฯลฯ ในเขตปลอดภัยการเดินอากาศ
ท่าอากาศยานอุบลราชธานี ประกาศขอความร่วมมือทุกท่าน ในช่วงใกล้เทศกาลลอยกระทงนี้ ห้ามปล่อยโคมลอย โคมควัน ดอกไม้ไฟ พลุ หรือฉายแสงเลเซอร์ภายในเขตปลอดภัยการเดินอากาศ และหลีกเลี่ยง การปล่อยอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน ในระยะ 9 กิโลเมตรโดยรอบสนามบิน
หากต้องการปล่อยโคมลอยในช่วงเทศกาลลอยกระทงที่ใกล้เข้ามาถึงแล้วนั้น ทำได้หรือไม่? และเมื่อโคมลอย ลอยขึ้นฟ้าแล้ว จะเป็นอันตรายต่อเครื่องบินไหม?
เพจสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) เปิดเผยว่า เนื่องจากไม่มีวิธีใดควบคุมทิศทางของโคมลอยได้ จึงเคยเกิดเหตุการณ์เครื่องยนต์ของเครื่องบินดูดโคมลอยเข้าไปติด กรณีนี้อาจทำให้เครื่องยนต์เกิดขัดข้องและเป็นอันตรายต่อชีวิตผู้โดยสาร
ดังนั้น ผู้ต้องการปล่อยวัตถุดังกล่าว จะต้องได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการเขต สำหรับกรุงเทพมหานคร หรือนายอำเภอแห่งท้องที่ สำหรับจังหวัดซึ่งรับผิดชอบในเขตพื้นที่ที่จะปล่อยโคม นอกจากนี้ยังต้องแจ้งข้อมูล วัน เวลา สถานที่และจำนวน ให้ท่าอากาศยาน หรือศูนย์ควบคุมการบินในพื้นที่ หรือ CAAT ทราบล่วงหน้า 7 วัน เพื่อที่ CAAT จะได้ออกประกาศแจ้งเตือนนักบิน (NOTAM : Notice To Airmen) ให้หลีกเลี่ยงการใช้ห้วงอากาศตามที่ขออนุญาต
อย่างไรก็ตาม CAAT ขอแจ้งเตือนประชาชนให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ 14) พ.ศ.2562 มาตรา 59/1 และ 59/2 โดยห้ามปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน พลุ ตะไล บั้งไฟ ดอกไม้ไฟ ลูกโป่ง หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงขึ้นสู่อากาศ ซึ่งเป็นการรบกวนหรือก่อให้เกิดอันตรายต่อการเดินอากาศหรือปฏิบัติการของอากาศยาน ภายในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ (บริเวณสนามบินและโดยรอบสนามบิน)
หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือหากฝ่าฝืนปล่อยแสงเลเซอร์หรือกิจกรรมอื่นๆที่อาจเป็นอันตรายต่อการเดินอากาศ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 120,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ ยังอาจเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 มาตรา 18 (2) ที่กำหนดห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการให้อากาศยานในระหว่างบริการเสียหาย จนเป็นเหตุให้อากาศยานนั้นไม่สามารถทำการบินได้หรือเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างบิน หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษประหารชีวิตจำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 600,000 บาท ถึง 800,000 บาท