งานวันรำลึกแห่งความดี ชาวอุบลราชธานี ประจำปี 2567
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.30 น. ที่อนุสาวรีย์แห่งความดี บริเวณทุ่งศรีเมืองอุบลราชธานี นายภูษิต น้อยโสภากุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลารำลึกความดีของบรรพชนอุบลราชธานี ในงาน "วันรำลึกแห่งความดี ชาวอุบลราชธานี" โดยมีส่วนราชการ ภาคเอกชน และลูกหลานเชลยศึกสัมพันธมิตรชาวต่างประเทศเข้าร่วมพิธี
อนุสาวรีย์แห่งนี้ เดิมเชลยศึกได้สร้างอยู่ทางทิศใต้ มีคำจาารึกว่า Ex PoW คือ Ex prisoner of War เรียกชาวอุบลว่า Little Mother ต่อมาประมาณปี 2513 เทศบาลเมืองอุบลราชธานี (ขณะนั้น ปัจจุบันยกฐานะเป็นเทศบาลนคร) ได้ก่อสร้างทดแทนและย้ายมาอยู่ มุมทางทิศเหนือและมีคำจารึกว่า The Monument of Merit เพื่อเป็นที่ระลึกและขอบคุณชาวอุบลราชธานี เคยช่วยเหลือเชลยศึกสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 (2484-2488) ซึ่งกองทหารญี่ปุ่นนำมาควบคุมและใช้แรงงานสร้างสนามบินที่อุบลราชธานี
เมื่อสงครามยุติลง เหล่าเชลยศึกได้สร้างอนุสรณ์สถานไว้ที่ทุ่งศรีเมือง เพื่อเป็นสถานที่รำลึกถึงคุณงามความดีของชาวอุบลราชธานี ที่ได้ช่วยเหลือด้านอาหาร เสื้อผ้า ยารักษาโรคและอื่นๆ จนรอดพ้นจากความทุกข์ยากลำบากและได้เดินทางกลับประเทศบ้านเกิดด้วยความปลอดภัย
การจุดประกายรำลึก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน ปี พ.ศ.2550 มีชาวต่างประเทศเดินทางมาที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 2 โดย คุณกมลวรรณ เรืองขจร ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงาน ได้ประสานกับนายปัญญา แพงเหล่า ให้ร่วมสังเกตการณ์ และบันทึกข้อมูลกิจกรรม และเชิญบุคคลสำคัญของจังหวัดอุบลราชธานี คือ นายสุวิชช คูณผล (ข้าราชการบำนาญ เทศบาล) เป็นตัวแทนชาวอุบลราชธานี และสื่อมวลชน มีนายชาญชัย จินตนกุล ทีมข่าวราชธานีเคเบิ้ลทีวี นายสุเทพ แก้ววรสูตร บรรณาธิการวารสารหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี และคุณสุรัสวดี ธรรมวะรีย์ (ล่าม) พร้อมชาวต่างประเทศ ในฐานะตัวแทนฝ่ายสัมพันธมิตร ประมาณ 50 คน โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อทำพิธีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์แห่งความดี และเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของบรรพชนชาวอุบลราชธานี ที่เคยให้ความช่วยเหลือเหล่าเชลยศึกสมัยสงครามโลกครั้งที่2 ถึงกาลเวลาจะผ่านมานาน เหล่าสัมพันธมิตร ก็ยังรำลึกถึงเสมอ จนมีคำเรียกขานว่าจังหวัดอุบลราชธานี เสมือนแม่คนที่2 (Little Mother Ubon) ทายาทเชลยศึกและฝ่ายสัมพันธมิตร จึงได้พร้อมใจกันมารำลึกถึงคุณงามความดี ณ อนุสาวรีย์แห่งความดีอุบลราชธานี
สำหรับชาวต่างประเทศ นำโดยนายทอม พอร์ตเตอร์ (Mr.Tomas Raymond Porter) ชาวอังกฤษ ซึ่งพักอาศัยและเป็นครูสอนภาษาต่างประเทศที่ สถาบัน อีซีซี(ECC) สาขาอุบลราชธานี ตั้งแต่ปี 2535 ได้ประสานกับเพื่อนชาวต่างประเทศ คือ นายโรเบิร์ด ลองริดจ์ (Mr. Robert G.F.Longridge Robert is EX-Royal Engineers British Army) นายไมค์ แขฟแมน (Mr.Michael Robert Chapman) และนายจิมมี่ เคอร์ติส (Mr. Jimmy Curtis) นายหลุยส์ เอลเลเวลลิน (Mr.Lan Ellewellyn) ฐานะผู้แทนชาวต่างประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรและเพื่อนชาวต่างประเทศมาพร้อมกัน ที่ลานอนุสาวรีย์ความดี โดยมี Mr.Robert longridge และ Mr.Trevor Baden Powell เป็นผู้วางพวงมาลา (หรีดสีแดง) มีข้อความว่า We Will Remember ณ อนุสาวรีย์ความดี และนายทอม เป็นผู้มอบช่อดอกไม้ในนามตัวแทนทายาทเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ให้นายสุวิชช คูณผล ในนามชาวอุบลราชธานี แทน (Lady of Ubon)
ต่อมา พ.ศ.2551 นายสุรพล สายพันธ์ ขณะที่ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และดูแลงานส่งเสริมท่องเที่ยว เห็นว่าควรทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวจังหวัดอุบลราชธานี ในมิติทางประวัติศาสตร์ในรูปแบบเป็นพิธีการ โดยได้นำรูปแบบที่เคยจัดที่เคยจัดในงาน "ยุทธนาวีเกาะช้าง" จังหวัดตราด (บริเวณอนุสรณ์สถานยุทธนาวีเกาะช้าง ตรงแหลมงอบ) เป็นแนวทาง อาทิ การวางพวงมาลา การกล่าวสดุดี การจุดคบไฟ (จากที่เคยเห็นในพิธีการที่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและที่ประตูชัยในนครปารีส เพื่อไว้รำลึกถึงวีระชน ) การเป่าแตรเดี่ยว มีบรรเลงเพลงเพื่อรำลึก และได้มีบทภาษาอังกฤษประกอบเพื่อสื่อกับชาวต่างชาติ พร้อมกับประสานหน่วยงานต่างๆ มาร่วมพิธีทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน
โดยกำหนดใช้วันที่ 11 เดือน 11 (เดือนพฤศจิกายน) เวลา11.00 น. ที่รับทราบในขณะนั้นว่า เป็นวันและเวลาที่ทำพิธีรำลึกถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั่วโลก งานที่กำหนดขั้นตอนต่างๆ ยังคงเป็นรูปแบบจนปัจจุบัน